การตั้งเป้าหมายสำหรับการทำอาชีพเสริมด้วยหลัก SMART
เคยเป็นกันไหมครับที่บางครั้งเราตั้งเป้าหมายแล้วพยายามเท่าไรก็ไปไม่ถึง
ผมเองนี่เป็นบ่อยเลยครับ แต่พอมานั่งนึกๆ ดูแล้ว บางทีที่เราไปถึงเป้าหมายไม่ถึงนั้นเพราะเราตั้งเป้าหมาย "เว่อร์" เกินไป แล้วการตั้งเป้าหมายให้เหมาะสมกับความเป็นจริงนั้นทำอย่างไร ? วันนี้ผมจะพาทุกคนไปรู้จักกับการตั้งเป้าด้วยหลักการ SMART ที่ผมเชื่อว่าถ้าอ่านจบ มันจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น มีประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญ สุขภาพจิตดีขึ้นด้วย
หลัก SMART คืออะไร
SMART เป็นคำย่อของ Specific, Measurable, Achievable, Relevant, Time-bound
- Specific คือเป้าหมายต้องเฉพาะเจาะจง ชัดเจน ไม่ควรเป็นเป้าหมายกว้างๆ เช่น "ฉันอยากมีอาชีพเสริม" ควรเป็นเป้าหมายที่ระบุรายละเอียดได้ เช่น "ฉันอยากทำอาชีพเสริมเป็นฟรีแลนซ์เขียนบทความ"
- Measurable คือเป้าหมายต้องวัดผลได้ โดยที่เราสามารถวัดผลความคืบหน้าของเป้าหมายได้ เพื่อให้รู้ว่าเรากำลังก้าวหน้าไปอย่างไร
- Achievable คือเป้าหมายต้องเป็นไปได้ ไม่ควรเป็นเป้าหมายที่ยากเกินความเป็นจริง
- Relevant คือเป้าหมายต้องเกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการ ไม่ใช่สิ่งที่คนอื่นต้องการให้เราทำ
- Time-bound คือเป้าหมายต้องมีกรอบเวลา การกำหนดกรอบเวลาจะช่วยให้เราเร่งรัดการทำงานและบรรลุเป้าหมายได้เร็วขึ้น
ตัวอย่างการตั้งเป้าหมายสำหรับการทำอาชีพเสริมที่เหมาะสม
เป้าหมาย: หารายได้จากการเขียนบทความ 5,000 บาทต่อเดือน ภายใน 6 เดือน
จะเห็นว่าเป้าหมายนี้มีความเฉพาะเจาะจงและวัดผลได้ เราสามารถวัดผลความคืบหน้าของรายได้จากการเขียนบทความได้ และเป้าหมายนี้ดูเป็นไปได้ในเวลา 6 เดือน ถ้าหากเราคิดงานเขียน 1000 คำที่ 500 บาท แปลว่าเราเขียน 10 งานก็ได้เงิน 5,000 ตามเป้าแล้วครับ
มาดูการตั้งเป้าหมายที่ไม่ดีกันบ้าง
- เป้าหมายที่ไม่เฉพาะเจาะจง เช่น "ฉันอยากทำอาชีพเสริม" เป้าหมายนี้ไม่เฉพาะเจาะจง เนื่องจากไม่ได้ระบุรายละเอียดว่าต้องการทำอาชีพเสริมอะไร และเหมือนที่เล่าไปทุกครั้งว่า ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมาะกับอาชีพเสริมเดียวกัน
- เป้าหมายที่วัดผลไม่ได้ เช่น "ฉันอยากรวยจากรายได้เสริม" เป้าหมายนี้วัดผลไม่ได้ เนื่องจากไม่มีตัวชี้วัดที่ชัดเจนว่ารายได้เสริมว่า ต้องการเงินเท่าไร
- เป้าหมายที่ไม่เป็นไปได้ เช่น "ฉันอยากเริ่มสร้างรายได้เสริม 1,000,000 บาทภายใน 1 เดือนแรกที่ทำ" เป้าหมายนี้เป็นไปได้ยากมากครับ เนื่องจากต้องการรายได้ที่สูงเกินความเป็นจริง (แต่ถ้ามีใครทำได้กระซิบมาบอกผมก็ดีนะครับ)
- เป้าหมายที่ไม่เกี่ยวข้องกับสิ่งที่เราต้องการ เช่น "ผมอยากเป็นนักเขียนฟรีแลนซ์ แต่ดันมีเป้าหมายอยากทำอาชีพเสริมด้วยการรับแต่งรูปใน Canva" อันนี้จะเห็นว่ามันผิดกับความต้องการผมเลย ส่วนใหญ่คนเราจะตั้งเป้าแบบนี้ผิดๆ เวลาเห็นคนอื่นโชว์รายได้จากอาชีพเสริมที่ได้เงินเยอะๆ กัน ซึ่งบางทีเราก็ไม่เคยถามตัวเองกันเลยว่า เราอยากทำแบบนั้นจริงๆ หรือ
- เป้าหมายที่ไม่มีกรอบเวลา เช่น "ฉันอยากมีรายได้จากอาชีพเสริม 10,000 บาท/เดือน" เป้าหมายนี้ไม่มีกรอบเวลา ทำให้ไม่รู้ว่าจะบรรลุเป้าหมายเมื่อไหร่ และทำให้ขาดแรงกระตุ้นอีกด้วย
ข้อดีของการตั้งเป้าหมายด้วย SMART
- สุขภาพจิตดีขึ้น : เมื่อก่อนผมเคยท้อเพราะตั้งเป้าหมายให้ตัวเองเว่อร์เกินไป แต่พอเราตั้งเป้าหมายได้เหมาะสมกับความเป็นจริงมากขึ้น สุขภาพจิตนีดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลยครับ
- มีแรงกระตุ้นในการทำงาน : เคยเป็นกันไหมครับ ถ้าเจ้านายสั่งงาน 30 วันล่วงหน้า คุณจะทำวันสุดท้าย ถ้าเจ้านายสั่งงาน 15 วันล่วงหน้า คุณก็ทำวันสุดท้าย หรือต่อให้เจ้านายสั่งงาน 7 วันล่วงหน้า คุณก็ทำงานวันสุดท้ายอยู่ดี ใช่ครับ คนเราจะมีแรงกระตุ้นก็ต่อเมื่อใกล้ถึง "เส้นตาย" ดังนั้นการกำหนดกรอบเวลาให้ตัวเอง ทำให้เรามีแรง มีไฟในการทำงานขึ้นมาก
- วัดผลได้ : คือบางครั้งการตั้งเป้าหมายขึ้นมา เราอาจจะไปได้ถึงเส้นชัย หรือไปไม่ถึงก็ได้ครับ แต่อย่างน้อยๆ การตั้งเป้าไว้จะทำให้เราเห็นว่าถ้าไปไม่ถึง เราขาดเหลืออะไร จะได้นำไปปรับปรุงพัฒนาต่อ
ยังไงก็ลองเอาไปใช้กันดูนะครับ ได้ผลยังไงมาเล่าให้กันฟังด้วยหล่ะครับ :)
Comments
Post a Comment